Google

Saturday, October 17, 2009

Iron Curtain : ม่านเหล็ก

วลีที่วินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นำมาใช้อธิบายนโยบายของสหภาพโซเวียตที่ต้องการโดดเดี่ยวรัฐคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกจากยุโรปตะวันตก เมื่อ ค.ศ.1964 คำว่า "ม่านเหล็ก" นี้หมายถึงสิ่งขวางกั้นที่หมู่ชาติคอมมิวนิสต์จัดตั้งขึ้นมาภายใต้การบงการของสหภาพโซเวียต มีการกระทำในลักษณะที่เป็นความลับและมีการใช้ระบบตรวจสอบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ในยุโรปตะวันออก ตลอดจนมีการตัดขาดการคมนาคมระหว่างตะวันออกกับตะวันตกอีกด้วย

ความสำคัญ ม่านเหล็กนี้ มีการบังคับใช้อย่างแข็งขันในช่วงหนึ่งทศวรรษที่เกิดการเขม็งเกลียวกันในระหว่างสงครามเย็น ถึงแม้จะมีการผ่อนคลายการเขม็งเกลียวลงมาในช่วงหลังจากการอสัญกรรมของโยเซฟ สตาลิน เมื่อปี ค.ศ. 1953 แต่ก็ได้กลับไปใช้มาตรการควบคุมแข็งขันขึ้นมาอีก เพราะผลจากการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลของประชาชนชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1956 อย่างไรก็ดี เมื่อถึงช่วงตอนปลายทศวรรษหลังปี ค.ศ. 1950 ก็ได้เริ่มผ่อนคลายนโยบายโดดเดี่ยวตะวันออกนี้อีกครั้งหนึ่ง ครั้นถึงช่วงปลายทศวรรษหลังปี ค.ศ. 1970 ม่านเหล็กนี้ก็ได้ถูกรูดขึ้นมา จนถึงขั้นเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวจากแถบตะวันตกหลายล้านคนได้เข้าไปเที่ยวในยุโรปในแต่ละปี นอกจากนี้แล้วก็ได้มีการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาและทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นหลายครั้ง มีการรื้อฟื้นทางการทูตและทางกงสุลระหว่างกันเกือบจะถึงขั้นปกติ ส่วนข้อจำกัดในเรื่องการคมนาคมและการท่องเที่ยวนั้น ก็ได้ผ่อนคลายความเค่งครัดลงมา อย่างไรก็ดี ก็ยังมีรัฐคอมมิวนิสต์อีกหลายรัฐเหมือนกัน ที่ยังคงมีข้อจำกัดในเรื่องการท่องเที่ยวนี้อยู่ โดยที่ยังไม่ยอมให้สิทธิแก่ประชาชนของตนเดินทางเข้าไปในประเทศตะวันตกอยู่ต่อไป นอกจากนี้แล้ว ในทศวรรษหลังปี ค.ศ. 1980 สหภาพโซเวียตได้ส่งทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน และฝ่ายตะวันตกได้ทำการตอบโต้นั้น ก็เป็น

No comments:

Post a Comment