Google

Saturday, October 17, 2009

Communist Theory : Revolution ทฤษฎีคอมมิวนิสต์ : การปฏิวัติ

การที่มวลชนใช้กำลังเข้าพิชิตและยึดอำนาจในช่วงสุดท้ายของการใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ของชนชั้น ตามที่หลักนิยมคอมมิวนิสต์ได้พยากรณ์ไว้ คาร์ล มาร์กซ์เชื่อว่า ในหมู่รัฐประชาธิปไตยต่าง ๆ พวกชนชั้นกรรมาชีพสามารถยึดอำนาจเบื้องต้นได้ด้วยสงครามหีบคะแนนเสียง แต่เขาได้พยากรณ์ไว้ว่า เมื่อตอนที่พวกชนชั้นกรรมาชีพจะขับไล่พวกชนชั้นกระฎุมพี ออกจากการควบคุมสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ นั้น ก็จะมีการต้านการปฏิวัติเกิดขึ้นมา เลนินได้เปลี่ยนแปลงลัทธิมาร์กซิสต์ตรงจุดนี้ โดยบอกว่าชนชั้นกระฎุมพีจะไม่ยอมละทิ้งบทบาทครอบงำของตน จนกว่าอำนาจนี้จะถูกทำลายโดยวิธีการใช้ความรุนแรงทำการปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพเท่านั้น ในนโยบายการอยู่ร่วมกันโดยสันตินั้น นิกิตา ครุชชอฟได้ประกาศไว้เมื่อปี ค.ศ. 1961 ว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์ไม่จำเป็นต้องใช้สงครามเป็นเครื่องมือเผยแพร่อุดมคติของตน และว่า อาวุธของคอมมิวนิสต์ "มีความสูงส่งกว่าระบบเก่า ทั้งในด้านการจัดองค์การทางสังคม ด้านระบบการเมือง ด้านระบบเศรษฐกิจ ด้านการปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพ และด้านวัฒนธรรมทางจิตใจ” อย่างไรก็ดี สงครามปลดปล่อยแห่งชาติที่มวลชนสู้รบในดินแดนด้อยพัฒนาของโลกนั้น ได้รับการรับรองจากครุชชอฟ และพวกผู้นำโซเวียตในยุคต่อมาว่าเป็นความจำเป็น และเป็นความชอบธรรม

ความสำคัญ ตำราคอมมิวนิสต์ส่วนใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และในคริสต์ศตวรรษที่ 20 จะพูดถึงธรรมชาติของการปฏิวัติที่ลัทธิมาร์กซิสต์ได้พยากรณ์ไว้แล้วนี้ ปัญหาสำคัญที่นำมาถกเถียงกันก็คือว่า เมื่อถึงตอนต่อสู้ของชนชั้นนี้ จำเป็นต้องใช้วิธีรุนแรงเข้าโค่นล้มรัฐบาลเดิมเท่านั้น หรือว่าสามารถทำได้โดยสันติวิธีด้วยกระบวนการทางประชาธิปไตย นักทฤษฎีคอมมิวนิสต์ส่วนใหญ่แล้วได้ให้การรับรองว่า การปฏิวัติด้วยวิธีการรุนแรงนี้เป็นความชอบธรรม และเป็นวิธีการจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุถึงขั้นตอนสังคมนิยมได้ แต่ไม่มีนักทฤษฎีคอมมิวนิสต์คนใดประกาศว่า สงครามที่รัฐคอมมิวนิสต์ทำกับรัฐประชาธิปไตยเป็นยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมหรือมีประโยชน์ พวกผู้นำคอมมิวนิสต์นับตั้งแต่ วี.ไอ.เลนิน จนถึง มิคาอิล กอร์บาชอฟ ได้ให้ทรรศนะไว้ว่า "การปฏิวัติไม่สามารถส่งออกได้" แต่จะต้อง "เป็นผลจากเงื่อนไขในท้องถิ่นนั้นเอง" และว่าในความหมายของลัทธิมาร์กซิสต์นั้น สถานการณ์ภายในสังคมต่าง ๆ ก็จักต้อง "สุกงอมพร้อมที่จะปฏิวัติ" อย่างไรก็ดี พวกผู้นำโซเวียตเห็นว่าการให้การสนับสนุนแก่กลุ่มปฏิวัติต่าง ๆ ในรัฐอื่น ๆ เป็นความชอบธรรมเพราะว่าเมื่อรัฐทุนนิยมก้าวหน้าต่าง ๆ ได้ส่งออกการต่อต้านการปฏิวัติเพื่อป้องกันมิให้เกิดผลตามธรรมชาติของการต่อสู้ของชนชั้นอยู่อย่างนี้ พวกคอมมิวนิสต์ก็มีหน้าที่ที่จะต้องให้การสนับสนุนแก่กองกำลัง "ก้าวหน้า"ที่ทำการต่อสู้อยู่นั้น

No comments:

Post a Comment