ทฤษฎีคอมมิวนิสต์ : ลัทธิประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์
วิธีการวินิจฉัยสั่งการและดำเนินนโยบายภายในพรรคคอมมิวนิสต์ โดยยึดหลักนิยมของลัทธิคอมมิวนิสต์ ลัทธิประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์นี้ เลนินเป็นผู้พัฒนาขึ้นมา โดยมีหลักการว่าในการพัฒนานโยบายต่าง ๆ ของพรรคฯ นั้น ให้ร่วมกันพิจารณาตามแบบประชาธิปไตย มีการอภิปรายและถกแถลงกันได้โดยเสรีในหมู่สมาชิกพรรคฯ แต่เมื่อได้มีการตัดสินใจกันแล้วจะมาแสดงความไม่พอใจหรือทำการโต้แย้งในภายหลังอีกไม่ได้ และเมื่อถึงตอนที่องค์การพรรคฯที่ถูกชี้นำจากส่วนกลางดำเนินการตามนโยบายนั้น สมาชิกพรรคฯทุกคนจะต้องรักษาวินัยอย่างเคร่งครัด และต้องให้การสนับสนุนนโยบายในขั้นดำเนินการนี้อย่างเต็มที่ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือว่า ในขั้นตอนพัฒนานโยบายนั้น อนุญาตให้มีความหลากหลายทางความคิดได้ แต่พอมาถึงขั้นตอนในการดำเนินการตามนโยบายนั้น จะต้องมีความเป็นเอกภาพหนึ่งเดียวในการให้การสนับสนุนผู้นำพรรคฯเท่านั้น
ความสำคัญ หลักการประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์นี้ เลนินได้พัฒนาขึ้นมา ก็เพื่อที่จะหล่อหลอมข้อดีที่จะได้ทั้งในแง่ปฏิบัติและในแง่จิตวิทยาของการให้สมาชิกพรรคฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมนี้ประการหนึ่ง กับความจำเป็นที่ต้องมีเอกภาพทางด้านอุดมการณ์และการมีประสิทธิผลในระดับปฏิบัติการภายใต้การควบคุมจากส่วนกลางนี้อีกประการหนึ่ง ให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เลนินเห็นว่า วิธีการแบบนี้มีความจำเป็นต้องนำมาใช้เพื่อสร้างเอกภาพและความมีประสิทธิผลภายใน ทั้งสองอย่างนี้จำเป็นจะต้องมีในการทำสงครามช่วงชิงอำนาจและในการดำเนินโครงการทางสังคมนิยมต่าง ๆ หลังจากที่ทำการปฏิวัติได้สำเร็จแล้วนั้น แต่หลักการประชาธิปไตยแบบรวมศูนย์นี้ ได้ถูกละทิ้งในช่วงที่สตาลินใช้ระบบการปกครองแบเผด็จการ ซึ่งหลังจากนั้นมาเป็นเวลาเกือบ 25 ปี การตัดสินใจและการบังคับใช้นโยบายต่าง ๆ ได้ดำเนินการโดยคณะบุคคลกลุ่มเล็ก ๆ ภายใต้การควบคุมของสตาลินอีกทีหนึ่ง เมื่อตอนที่มิคาอิล กอร์บาชอฟ ดำเนินนโยบาย กลาสนอสต์(การเปิด) ก็ได้พยายามให้สาธารณชนได้มีโอกาสโต้แย้งและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนานโยบายมากยิ่งขึ้น
No comments:
Post a Comment